เทรนด์ช่อดอกไม้แต่งงาน ในปี 2018

ช่อดอกไม้ หรือช่อ Bouquet ของเจ้าสาวนั้นนับได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับเจ้าสาวมาช้านานจนแทบจะขาดกันไม่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากที่สำคัญเพื่อเพิ่มความสวยงามและความอ่อนหวานให้กับเจ้าสาวในการถ่ายรูปแล้วยังเป็นการบ่งบอกถึงความสมบูรณ์แบบของเจ้าสาวเองด้วย โดยเฉพาะการโยนช่อดอกไม้ให้แก่บรรดาสาวโสด วันนี้ร้าน Love You Flower จะมาอัปเดตเทรนด์ช่อดอกไม้แต่งงานในปี 2018 นี้กันค่ะว่าช่อดอกไม้แต่งงานนี้มีเทรนด์อะไรใหม่ ๆ บ้าง

ช่อดอกไม้ทรงกลม (Round Bouquet) นับได้ว่าเป็นช่อดอกไม้แต่งงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาช่อดอกไม้ทุกรูปแบบ เพราะช่อดอกไม้แต่งงานทรงนี้มีลักษณะกลม มีความน่ารักอยู่ในตัว และขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับเจ้าสาวในการถือเป็นพร็อพถ่ายรูป เข้าพิธีแต่งงาน หรือโยนช่อดอกไม้ให้กับบรรดาสาวโสดที่มาร่วมงาน ซึ่งดอกไม้ที่เหมาะสำหรับการจัดช่อดอกไม้ประเภทนี้ ส่วนมากมักนิยมใช้ดอกโบตั๋นหรือดอกกุหลาบสีอ่อน ๆ อย่าง ดอกกุหลาบสีชมพู ที่สื่อถึงความรักที่หวานซึ้งโรแมนติก หรือไม่ก็ดอกกุหลาบสีขาวที่สื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์ เป็นต้น บางครั้งช่อดอกไม้รูปแบบนี้อาจแซมด้วยดอกไม้ชนิดอื่นบ้างก็ได้ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับช่อดอกไม้มากยิ่งขึ้น สำหรับเจ้าสาวที่มีรูปร่างอวบนั้นควรเลี่ยงในการถือช่อดอกไม้ชนิดนี้ เพราะจะทำให้รูปร่างตุ้ยนุ้ยมากกว่าเดิมค่ะ

ช่อดอกไม้ทรงโค้ง (Pageant) บางทีอาจจะเรียกว่า “Presentation” หรือ “Arm Sheaf” ก็ได้ ซึ่งช่อดอกไม้ทรงนี้ จะมีลักษณะยาวและมีทรงโค้งเล็กน้อย ทำให้เวลาเจ้าสาวถือช่อดอกไม้นี้ต้องประคองหรือวางพาดไว้ในอ้อมแขนให้เบี่ยงไปด้านข้าง เพื่อให้เจ้าสาวโชว์ชุดแต่งงานได้อย่างเต็มตา โดยดอกไม้ที่นิยมนำมาจัดช่อดอกไม้ทรงโค้งนี้ ได้แก่ กุหลาบ (กุหลาบสีขาว หรือสีชมพู) ดอกลิลลี่ ดอกพุด ดอกกล้วยไม้ ดอกไฮเดรนเยีย และเถาไอวี่ เป็นต้น สำหรับการจัดช่อดอกไม้ทรงนี้จะมีความหรูหราอลังการกว่าช่อดอกไม้ทรงกลม โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ดอกไม้ก้านยาว ดูหรูหรา และตกแต่งด้วยริบบิ้นทิ้งปลายยาว นอกจากจะทำให้เกิดอารมณ์โรแมนติกแล้วยังช่วยให้เจ้าสาวดูสง่างาม ทันสมัยและมีความเป็นผู้ดีในคราวเดียวกันอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับเจ้าสาวที่มีรูปร่างดี สูง และสวมชุดเจ้าสาวแบบเข้ารูปที่เรียบง่ายและมีความคลาสสิก

ช่อดอกไม้ทรงน้ำตก (Cascade) นับได้ว่าเป็นช่อดอกไม้ที่มีความโด่งดัง เนื่องจากเจ้าหญิงไดอาน่าทรงถือในวันแต่งงาน ซึ่งช่อดอกไม้ทรงน้ำตกนี้จะมีลักษณะเป็นการจัดปลายช่อให้ยาวและเป็นฝอยห้อยระย้าทิ้งตัวลงสู่ด้านล่างเหมือนกับน้ำตกที่ไหลลงมาจากยอดภูเขา นับได้ว่าเป็นช่อดอกไม้แต่งงานที่มีความสวยงามและความหรูหรารวมกันไว้ในช่อเดียวกัน แถมยังทำให้เจ้าสาวดูสง่างามในยามที่ถือช่อดอกไม้ทรงน้ำตกนี้เข้างานอีกด้วย โดยช่อดอกไม้รูปแบบนี้เหมาะสำหรับเจ้าสาว ที่มีรูปร่างสูง หุ่นเพรียว และสวมชุดกระโปรงยาวลากพื้น

ช่อดอกไม้แบบโนสเกย์ (Nosegay) เป็นช่อดอกไม้ขนาดเล็กที่นิยมจัดเรียงดอกไม้หลายชนิดมารวมเป็นช่อเดียวกันอย่างง่าย ๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนเพิ่งเก็บมาจากสวน ด้วยความที่ช่อดอกไม้ทรงนี้มีขนาดเล็กกว่าช่อดอกไม้ทรงอื่นจึงเหมาะสำหรับเจ้าสาวที่มีรูปร่างเล็ก เมื่อถือช่อดอกไม้ทรงนี้จะทำให้เจ้าสาวน่ารัก ดูเป็นธรรมชาติ

ช่อดอกไม้ทรงก้านยาว (Long Stem) เป็นช่อดอกไม้ที่มีรูปแบบคล้ายกับช่อดอกไม้แบบโนสเกย์ คือนิยมจัดเรียงดอกไม้หลากหลายชนิดมารวมเป็นช่อเดียวกัน แต่จะต่างกันตรงที่ก้านมีความยาวมากกว่า ซึ่งการถือช่อดอกไม้ทรงก้านยาวนี้ให้วางแนบไปตามแขนของเจ้าสาวโดยให้ดอกไม้อัดรวมกันบริเวณข้อศอก เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่มีรูปร่างสูง และสวมชุดกระโปรงยาวลากพื้น

ช่อดอกไม้แบบเครื่องประดับ (Posy) เป็นช่อดอกไม้ที่มีความนิยมมากที่สุดในงานแต่งงานแบบอเมริกัน โดยลักษณะของช่อดอกไม้ทรงนี้จะมีรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกันไป และมีจุดเด่นอยู่ตรงที่มีการประดับตกแต่งด้วยจี้ มุก และเข็มกลัดให้มีความหรูหราสวยงามมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่สวมชุดแต่งงานที่มีสไตล์ที่เรียบ ๆ ทุกรูปแบบ

ช่อดอกไม้แบบผูกปลายคล้องแขน (Pomander) มีลักษณะเป็นช่อดอกไม้ลูกตุ้มกลม ๆ คล้ายลูกบอลกลมโต มีขนาดเล็กกะทัดรัด และมีริบบิ้นผูกไว้สำหรับคล้องแขน ส่วนมากมักนิยมใช้ดอกกุหลาบ เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ไม่ต้องการถือช่อดอกไม้ให้เมื่อยแขน โดยมากมักจะให้เด็กถือช่อดอกไม้นี้มากกว่า เนื่องจากมีดีไซน์ที่น่ารัก

ช่อแบบผูกปลายสำหรับมือถือ (Hand-Tied) เป็นช่อดอกไม้อีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาว โดยเฉพาะเจ้าสาวในธีมงานแบบโบฮีเมียน (ยิปซี) แบบสมัยใหม่ หรือแบบรัสติค เนื่องจากเป็นช่อดอกไม้ที่มีรูปแบบการจัดดอกไม้ที่ไม่แน่นมาก ดูสบายตา อาจจะมีการใช้ริบบิ้นหรือวัสดุสวยงามอื่น ๆ ผูกที่ก้านช่อไว้สำหรับถือ มีความโรแมนติก ซึ่งดอกไม้ที่นำมาจัดช่อดอกไม้แบบผูกปลายสำหรับมือถือนี้จะนิยมใช้ดอกไม้หลากหลายชนิดด้วยกัน อย่างเช่น ดอกกุหลาบขาว ดอกเบญจมาศขาว-เหลือง ดอกแคทรียา หรืออาจจะเน้นดอกไม้ที่มีสีสันสดใส เพื่อให้งานแต่งงานมีความโดดเด่นมากขึ้น

นอกจากช่อดอกไม้แต่งงานทั้ง 8 แบบที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีช่อดอกไม้แบบอื่น ๆ อีกมากมายด้วย แล้วแต่ว่าเจ้าสาวคนไหนจะนิยมชมชอบช่อดอกไม้แบบไหน เลือกช่อดอกไม้ให้เหมาะกับตัว และธีมงานแต่งของเรา แค่นี้ก็ทำให้งานแต่งงานเต็มไปด้วยความสุขแล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก:
www.vcharkarn.com/vblog/44843
praewwedding.com/73244/