“วันไวท์เดย์ (White Day)” คือวันอะไร มีความสำคัญอย่างไร ใครพอจะทราบบ้างไหมคะ? วันไวท์เดย์ ตรงกับวันที่ 14 มีนาคมของทุกปี ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญสำหรับคนที่กำลังอินเลิฟ เป็นรองแค่วันวาเลนไทน์เท่านั้น เพราะวันไวท์เดย์ คือวันที่หนุ่มสาวจะได้รับของตอบแทนจากคนที่ตนเคยให้ของขวัญ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ หรือ อีกนัยหนึ่ง นี่คือวันที่จะได้รู้กันว่า ความในใจที่ส่งไปในวันวาเลนไทน์ เขาหรือเธอคนนั้นใจตรงกับเราหรือเปล่า จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ White Day เริ่มมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นของวันไวท์เดย์
https://pixabay.com/th/photos/เมาส์เบคอน-เบคอนหนู-ขนมหวาน-แก้ว-2692474/
จุดเริ่มต้นของเทศกาลวันไวท์เดย์นั้นเริ่มมากจากประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ. 1978 โดยบริษัทขนมหวานที่ต้องการทำการตลาดในการขายสินค้า ซึ่งในอดีตนั้น การเฉลิมฉลองวันไวท์เดย์จะใช้ “มาร์ชเมลโล่” เป็นสื่อกลางความรักของหนุ่มสาว จึงใช้ชื่อเทศกาลนี้ว่า Marshmallow Day แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไรนัก ต่อมาจึงเปลี่ยนมาใช้ “ไวท์ช็อกโกแลต” เป็นตัวแทนความรักอันบริสุทธิ์ จนเกิดเป็น White Day มาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากในประเทศญี่ปุ่นแล้ว วัฒนธรรมการให้ของขวัญในวันไวท์เดย์ก็ได้กลายเป็นที่นิยมในประเทศเกาหลี รวมถึงอีกหลายประเทศในแถบเอเชียอีกด้วยค่ะ
การให้ของขวัญในวันไวท์เดย์
ธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับวันไวท์เดย์ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีอยู่ว่า หนุ่ม ๆ ที่ได้รับช็อกโกแลต หรือของขวัญจากสาว ๆ ในวันวาเลนไทน์ หากใจตรงกันและต้องการรับรักจากสาวเจ้า ก็จะต้องซื้อของขวัญกลับคืนให้เธอในวันที่ 14 มีนาคม โดยมีข้อแม้ว่า ของขวัญที่ให้คืนจะต้องมีราคามากกว่า 3 เท่าจากของขวัญที่สาว ๆ ได้ให้กับชายหนุ่มที่เธอหมายปอง นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งวันที่สาวญี่ปุ่นทุก ๆ คนรอคอยค่ะ
ในส่วนของขวัญวันไวท์เดย์ ของที่นิยมให้กันในวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็น ช็อคโกแล็ต ลูกกวาด ช่อดอกไม้ และตุ๊กตาหมี ซึ่งอาจจะดูเหมือนเป็นของขวัญทั่ว ๆ ไป แต่ความจริงแล้วของเหล่านี้คือสิ่งที่มีค่ามาก ๆ ในวันไวท์เดย์เลยค่ะ
https://pixabay.com/th/photos/วันวาเลนไทน์-ช็อคโกแลต-ขนม-2057745/
ความสำคัญอีกประการของวันไวท์เดย์ คือเป็นวันแห่งคำตอบสำหรับการสารภาพรักในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา โดยหนุ่มสาวที่ได้สารภาพความในใจไปเมื่อวันวาเลนไทน์ ต่างรอคำตอบจากคนที่ชอบในวันไวท์เดย์นี้ หากใจตรงกัน อีกฝ่ายก็จะได้รับของขวัญกลับคืนในวันไวท์เดย์นี้ แต่ถ้าหากไม่ได้รับของขวัญกลับ นั่นก็เท่ากับว่าถูกปฏิเสธนั่นเองค่ะ
หากใครเคยดูซีรี่ส์เกาหลีหรือญี่ปุ่นมาบ้าง น่าจะพอคุ้นเคยและเข้าใจความสำคัญของวันไวท์เดย์นี้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าประเทศไทยเราเองก็ได้รับวัฒนธรรมจากทางเกาหลี-ญี่ปุ่นเขามาพอสมควร จึงไม่แปลกที่หนุ่มสาวอย่างเรา ๆ หวังจะมีวันไวท์เดย์แบบในซีรี่ส์บ้าง จริงไหมคะ เพราะฉะนั้น ใครที่เคยได้รับของขวัญในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาคงต้องเตรียมตัวให้ดีแล้วค่ะ ว่าจะหาของขวัญแบบไหนไปตอบแทนเขาดี
วันแบล็คเดย์ (Black Day)
นอกจากวันวาเลนไทน์และวันไวท์เดย์ที่เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองของคนมีรักแล้ว คนโสดก็มีวันของตัวเองเช่นกันนะคะ โดยในประเทศเกาหลีใต้จะมีการฉลอง “วันแบล็คเดย์ (Black Day)” ในวันที่ 14 เมษายนของทุกปี ถือเป็นวันสำหรับคนโสด ทั้งคนไร้คู่และคนที่ผิดหวังจากความรัก โดย หนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ไม่ได้รับของขวัญในสองวันที่กล่าวมาข้างต้นจะแต่งชุดโทนสีดำออกไปกินบะหมี่ดำ “จาจังมยอน (Jajangmyeon)” ย้อมใจ โดยมีความเชื่อว่า การทานบะหมี่ดำจะทำให้ได้พบเจอคนรักในเร็ววันด้วยค่ะ และบางคนที่ออกไปฉายเดี่ยว อาจจะได้คู่กลับไปในวันนี้ เพราะเป็นวันที่จะมีแต่คนโสดเท่านั้นนั่นเองค่ะ
https://sites.google.com/site/4749foodkorean/foodkorea/jajangmeng
สรุปแล้ว ความสำคัญของวันไวท์เดย์ก็เปรียบเสมือนวันวาเลนไทน์ครั้งที่ 2 นั่นเองค่ะ เพียงแต่วันไวท์เดย์นี้จะเป็นวันแห่งการตอบแทน ทั้งการมอบของขวัญคืนให้แก่ผู้ที่มอบของแทนใจให้เราในวันวาเลนไทน์ และการตอบรับความรู้สึกของอีกฝ่ายที่ได้เผยมา วันไวท์เดย์จึงถือเป็นอีกหนึ่งวันที่น่าตื่นเต้นสำหรับหลาย ๆ คู่เลยทีเดียวค่ะ
หากหนุ่ม ๆ ท่านใดกำลังมองหาช่อดอกไม้สวย ๆ ไปเซอร์ไพรส์สาวคนรัก หรือสาว ๆ คนไหนอยากเปลี่ยนเป็นฝ่ายมอบดอกไม้แทนใจให้เขาคนนั้นบ้าง ทางร้าน Love You Flower มีช่อดอกไม้ให้เลือกซื้อมากมาย รับรองว่าต้องมีช่อที่สะดุดตา ถูกใจทุกคนอย่างแน่นอน และแม้ว่าในวันไวท์เดย์นี้จะมีธรรมเนียมการซื้อของขวัญคืนที่ราคามากกว่า 3 เท่าจากของขวัญที่คุณได้ในวันวาเลนไทน์ แต่เราเชื่อมั่นว่า เพียงแค่คุณให้สิ่งของที่มาจากความตั้งใจ และใส่ใจคนที่คุณรักอย่างแท้จริง ราคาก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป สนใจสั่งดอกไม้เพิ่มเติมสามารเข้าไปดูได้ที่หน้าเว็บไซต์ได้เลยค่ะ