ทำไมประเทศไทยถึงเป็นจุดหมายที่ดีที่สุดสำหรับ ชาว LGBTQ+
ประเทศไทยมักได้รับการยกย่องว่าเป็น "ประเทศที่เป็นมิตรกับชาว LGBTQIAN+." เมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆ ประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีการแสดงระดับการยอมรับต่อชาวเกย์ เลสเบี้ยน และเพศอื่นๆ ที่มีความหลากหลายทางเพศและอัตลักษณ์มากกว่าอย่างชัดเจน สิ่งนี้สามารถเห็นได้ในสื่อกระแสหลัก ตั้งแต่รายการโทรทัศน์ไปจนถึง YouTuber ชื่อดัง อีกหนึ่งวัฒนธรรมที่ได้ทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยดังไปทั่วโลกคือ ซีรีส์ BL (Boy Love) ที่มีชื่อเสียง ซึ่งได้ครองใจผู้ชมทั่วโลกและดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทย
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ สำหรับนักท่องเที่ยวชาว LGBTQ+ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และแน่นอนว่ายังเป็นเดือนของการเดินขบวนพาเรดงาน Pride LGBTQ+ ประจำปีของกรุงเทพฯ กิจกรรมเหล่านี้เน้นย้ำว่าทำไมประเทศไทยถึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่เหมาะสมสำหรับชาว LGBTQ+ ทั่วทุกมุมโลก อยากรู้เหตุผลไหมคะว่าทำไม สามารถอ่านต่อเพิ่มเติมได้ด้านล่างเลยค่ะ
5 เหตุผลที่ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักท่องเที่ยวชาว LGBTQ+
1. การยอมรับอย่างกว้างขวางต่อบุคคลข้ามเพศ
ที่มาของรูปภาพ: reuters.com
ในประเทศไทย บุคคลข้ามเพศได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและเป็นที่เห็นได้ชัดเจนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง แตกต่างจากบางประเทศที่แม้แต่การแต่งกายเป็นเพศที่ต่างจากเพศกำเนิดอาจถูกมองในแง่ลบ แต่ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในเรื่องความเปิดกว้างต่อบุคคลข้ามเพศ โดยที่นี่การเป็นบุคคลข้ามเพศไม่จำเป็นต้องปิดบังตนเอง มีคนดังและ YouTuber ไทยหลายคนที่เป็นบุคคลข้ามเพศและใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยพร้อมได้รับการยอมรับจากสังคม เช่น นัท นิสามณี ยูทูปเบอร์-อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ปอย ตรีชฎา หงษ์หยก นักแสดงและนางแบบชาวไทย
ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยยังเป็นสถานที่ ที่นิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับบุคคลข้ามเพศจากประเทศเพื่อนบ้านที่อาจไม่ได้รับการยอมรับในเรื่องเพศ ความเปิดกว้างและการยอมรับนี้ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สร้างความประทับใจและดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวชาว LGBTQ+ ที่ต้องการสังคมที่อบอุ่นและเป็นมิตรกับพวกเขา
2. บทบาทสำคัญในสื่อ สำหรับบุคคลเกย์และเลสเบี้ยน
ที่มาของรูปภาพ: workpointtoday.com
ประเทศไทยกำลังเป็นที่ยอมรับสำหรับเกย์และเลสเบี้ยนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าอคติทางเพศจะยังคงมีอยู่เช่นเดียวกับทั่วโลก แต่ในประเทศไทยนั้นถือได้ว่ามีน้อยลงและยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาในสังคมที่เปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายมากขึ้น
สื่อในไทยมีการแสดงโชว์ในบทบาทเกย์และเลสเบี้ยนเป็นจำนวนมาก ที่มีบทบาทสำคัญในวงการศิลปะและบันเทิง การเติบโตของซีรีส์ BL (Boys' Love) ได้ช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นอย่างมากและยังทำให้วัฒนธรรมไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากล ซีรีส์ยอดนิยมอย่าง "KINNPORSCHE" (2022), "2GETHER" (2020) และ "I Told Sunset About You" (2022) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้วยสังคมที่เปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายทางเพศนี้เป็นเหตุผลที่อธิบายว่าทำไมประเทศไทยถึงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวกลุ่มชาว LGBTQ+ ชื่นชอบเเละนิยมมาเที่ยวตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา
3. การแสดงความรักในที่สาธารณะ
ที่มาของรูปภาพ: hrw.org
ในประเทศไทย การแสดงความรักในที่สาธารณะ หรือ (PDA) มักจะเเสดงให้เห็นน้อยกว่าในประเทศตะวันตก คู่รักชาวไทยไม่ว่าจะมีเพศสภาพแบบใดก็ตาม มักจะกอดหรือจับมือกันในที่สาธารณะ แต่สิ่งที่มากกว่านั้นมักจะเเสดงออกในสถานที่ส่วนตัว ซึ่งคนไทยเป็นที่รู้จักในเรื่องของการเก็บอารมณ์ความรู้สึกไว้ในใจ ไม่ว่าจะเป็นความรักที่ลึกซึ้งหรือความโกรธ ก็มักจะเก็บไว้พูดกันในบ้านไม่เเสดงออกในที่สาธารณะ
ในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ การเห็นคู่รักเพศเดียวกันจับมือหรือแสดงความรักในที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในพื้นที่นอกเมืองใหญ่ ผู้คนในชนบทของไทยอาจไม่คุ้นเคยกับการเห็นคู่รักเพศเดียวกันและการแสดงความรักในที่สาธารณะ นักท่องเที่ยวควรเลี่ยงการแสดงออกถึงความรักในพื้นที่สาธารณะโดยเฉพาะในพื้นที่ท้องถิ่น
4. แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+
ประเทศไทยได้รับการยกย่องในเรื่องของภูมิทัศน์ธรรมชาติที่งดงามและมรดกทางวัฒนธรรม ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพฯ และพัทยา สถานที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความงดงามและประวัติศาสตร์ แต่ยังเเสดงการต้อนรับและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ อีกด้วย
กรุงเทพมหานครถือเป็นเป็นจุดศูนย์กลางแห่งกิจกรรมยามราตรีที่คึกคักและหลากหลายสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ โดยมีสถานประกอบการที่เป็นมิตร ตั้งแต่โรงแรม เกสต์เฮาส์ ไปจนถึงไนท์คลับสุดมันส์ หรือจะเป็นโชว์คาบาเร่ต์จากบุคคลข้ามเพศ และบาร์โกโก้
นอกจากนี้ ย่านสีลมถือเป็นอีกสถานที่ในชีวิตยามค่ำคืนของชาวเกย์ในกรุงเทพฯ โดยมีซอย 2 และซอย 4 เป็นศูนย์กลางหลัก ซอย 2 มีชื่อเสียงในเรื่องของคลับเต้นรำที่สนุกสนานคึกคัก ในขณะที่ซอย 4 มีบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากกว่า โดยมีผับ บาร์ และร้านอาหาร เรียงรายในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งย่านเหล่านี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดงและรถไฟใต้ดิน MRT สถานีสีลม
5. การเลือกปฏิบัติต่อชาว LGBTQIAN+ ที่พบได้ไม่บ่อยนัก
แม้ว่าการก่ออาชญากรรมหรือการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลชาว LGBTQ+ จะเป็นเรื่องที่พบได้น้อยในประเทศไทย แต่สิ่งสำคัญคือต้องรับรู้ว่าทัศนคติของสังคมอาจมีความอนุรักษ์นิยมมากขึ้นในพื้นที่นอกเมืองใหญ่ และคู่รักเพศเดียวกันอาจพบได้ไม่บ่อยในพื้นที่ชนบท ดังนั้น นักท่องเที่ยวชาว LGBTQ+ ในประเทศไทย ควรปรับตัวให้เข้ากับสภาพเเวดล้อมในจุดหมายอื่นๆที่จะเข้าไปท่องเที่ยว
ในด้านความปลอดภัย นักท่องเที่ยวชาว LGBTQ+ ควรระมัดระวังในเรื่องความเสี่ยงที่มีผลต่อนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป เช่น การหลอกลวง การวางยาในเครื่องดื่ม การลักขโมย และอุบัติเหตุทางท้องถนน
โดยรวมแล้ว ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มชาว LGBTQ+ แต่เช่นเดียวกับทุกที่ การรับรู้และการระมัดระวังจะช่วยให้การเดินทางของคุณปลอดภัย ราบรื่นและสนุกสนาน เป็นความทรงจำดีๆ ต่อไป
เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาวกรุงเทพฯ เเละขบวนพาเหรด Pride ในประเทศไทย
งานเทศกาล Bangkok Pride ซึ่งเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1999 ที่ย่านสีลมและสุรวงศ์ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญในฐานะการจัดงาน LGBTQIA+ ที่แรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เทศกาลนี้มีการแสดงเครื่องแต่งกายที่สวยงามและหรูหรา ดึงดูดผู้ชมหลายพันคน และเฉลิมฉลองความหลากหลายและเสรีภาพของชุมชน LGBTQIA+
Thousands march for Pride Month in Thailand as same-sex marriage legalization nears
เทศกาล Bangkok Pride 2024
เทศกาล Bangkok Pride 2024 มีธีมที่ชื่อว่า "Celebration of Love" (การเฉลิมฉลองแห่งความรัก) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่การออกกฎหมายการสมรสเพศเดียวกันที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2024 เทศกาลนี้เป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนสิทธิความหลากหลายทางเพศจากทุกภาคส่วน และประกาศให้โลกเห็นว่าประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นแสงสว่างสำหรับชุมชน "สีรุ้ง" ในทั่วโลก
งานนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองความหลากหลาย แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการสนับสนุนสิทธิและความเสมอภาคสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพใดก็ตาม ด้วยการจัดงานที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวชาว LGBTQIA+ จากทั่วโลก
ที่มาของรูปภาพ: thairath.co.th
ผู้เข้าร่วมงานนี้สวมใส่ชุดที่สีสดใส โดยเฉพาะชุดที่มีสีรุ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชุมชนชาว LGBTQIA+ ตั้งแต่ธง เสื้อ ไปจนถึงเครื่องประดับหลากหลาย ซึ่งสีรุ้งปรากฏให้เห็นอย่างโดดเด่น โดยไม่ได้จำกัดแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังขยายไปทั่วภูมิภาคต่างๆ ของไทย เช่น เชียงใหม่ เชียงราย สุรินทร์ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี ภูเก็ต สงขลา ตรัง นครศรีธรรมราช พัทยา และชลบุรี รวมถึงที่อื่นๆ
นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังเตรียมเวทีสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดงาน WorldPride ในปี 2030 โดยแสดงถึงความพร้อมและความกระตือรือร้นที่จะสนับสนุนและเฉลิมฉลองชุมชน LGBTQIA+ ในระดับโลกอีกด้วย
เทศกาล Bangkok Pride 2024 มีธีมที่ชื่อว่า "Celebration of Love" (การเฉลิมฉลองแห่งความรัก) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่การออกกฎหมายการสมรสเพศเดียวกันที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2024 เทศกาลนี้เป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนสิทธิความหลากหลายทางเพศจากทุกภาคส่วน และประกาศให้โลกเห็นว่าประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นแสงสว่างสำหรับชุมชน "สีรุ้ง" ในทั่วโลก
งานนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองความหลากหลาย แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการสนับสนุนสิทธิและความเสมอภาคสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพใดก็ตาม ด้วยการจัดงานที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวชาว LGBTQIA+ จากทั่วโลก
ผู้เข้าร่วมงานนี้สวมใส่ชุดที่สีสดใส โดยเฉพาะชุดที่มีสีรุ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชุมชนชาว LGBTQIA+ ตั้งแต่ธง เสื้อ ไปจนถึงเครื่องประดับหลากหลาย ซึ่งสีรุ้งปรากฏให้เห็นอย่างโดดเด่น โดยไม่ได้จำกัดแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังขยายไปทั่วภูมิภาคต่างๆ ของไทย เช่น เชียงใหม่ เชียงราย สุรินทร์ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี ภูเก็ต สงขลา ตรัง นครศรีธรรมราช พัทยา และชลบุรี รวมถึงที่อื่นๆ
นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังเตรียมเวทีสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดงาน WorldPride ในปี 2030 โดยแสดงถึงความพร้อมและความกระตือรือร้นที่จะสนับสนุนและเฉลิมฉลองชุมชน LGBTQIA+ ในระดับโลกอีกด้วย