สั่งดอกไม้ต่างประเทศ สั่งยังไง สั่งร้านไหนดี
สั่งดอกไม้ต่างประเทศ สั่งยังไง สั่งร้านไหนดีคนที่ปลูกต้นรักทางไกล หรือมีเพื่อน มีคนในครอบครัวที่อยู่ห่างไกลกัน ย่อมมีหลายโอกาส หลายเทศกาล ที่คุณจะต้องสั่งดอกไม้ต่างประเทศ วันนี้เราเลยรวบรวม 5 ร้านดังจาก 4 ประเทศมาฝากกันค่ะ แต่ละร้านรับรองสั่งง่าย จ่ายสะดวก ไว้ใจได้ และก็มีจุดขายเด็ด ๆ ต่างกันไป ลองเรียกใช้บริการให้ส่งความรู้สึกดี ๆ กันได้ทุกโอกาส โดยไม่เกี่ยงว่าเราจะอยู่มุมใดของโลกเลยล่ะค่ะ
Japan(Nationwide)
สิ่งที่เรามักกังวลกับการสั่งดอกไม้ต่างประเทศเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ ความน่าเชื่อถือ และความสะดวกในการชำระเงิน ซึ่งถ้าใครต้องการสั่งและส่งดอกไม้ในประเทศญี่ปุ่น อยากให้ลองใช้บริการร้าน TheJapanFlorist.com ดูค่ะ รับรองว่าอุ่นใจชัวร์ เพราะลูกค้าของ TheJapanFlorist.com มาจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งแถบเอเชีย ยุโรป และอเมริกา และเราสามารถชำระเงินผ่าน PayPal บัตรเครดิต Visa, Master Card, American Express ฯลฯ แถมราคาก็ไม่แพง โดยช่อดอกไม้มีราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2,000 บาทเองค่ะ
เราสามารถสั่งดอกไม้ส่งให้แก่ผู้รับได้ทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยนะคะ ไม่ว่าจะจังหวัดไหนก็ส่งถึงที่ในวันที่สั่ง นอกจากดอกไม้แล้วก็ยังมีกระเช้าของขวัญ ช็อกโกแลต ไวน์ ซึ่งจะจัดส่งให้ได้ในวันถัดไป ดอกไม้ปลูกในกระถางก็มี โดยใช้เวลาจัดส่งประมาณ 2 วันค่ะ
South Korea(Nationwide)
อุปสรรคอีกอย่างของการสั่งดอกไม้ต่างประเทศคือความกังวลเรื่องวัฒนธรรม เพราะแต่ละประเทศนั้นมีวันสำคัญต่างกันไป หรือแม้จะเป็นวันเดียวกัน แต่ธรรมเนียมการให้ของขวัญแต่ละโอกาสก็อาจไม่เหมือนบ้านเราก็เป็นได้
สำหรับใครที่อยากส่งของขวัญให้ชาวเกาหลี อยากให้ลองเข้ามาดูที่ร้าน Flower-Korea (flower-korea.com) ค่ะ นอกจากจะมีของขวัญตามโอกาสทั่ว ๆ ไป อย่าง วันเกิด การเยี่ยมไข้ การแสดงความยินดี ให้เราเลือกได้อย่างไม่ต้องมานั่งปวดหัวเองแล้ว ทางร้านยังจัดเตรียมของขวัญสำหรับวันสำคัญต่าง ๆ ในเกาหลีไว้ให้ได้เลือกซื้อกันด้วยค่ะ
ตัวอย่างโอกาสสำคัญในเกาหลีที่บ้านเราไม่มี ก็ได้แก่ ‘Pepero Day’ ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นวันน่ารัก ๆ ที่ชาวเกาหลี โดยเฉพาะวัยรุ่น จะมอบขนมเปเปโร่ หรือคุกกี้แท่งให้แก่เพื่อน ๆ และคนที่ตนเองชอบ (แบบเดียวกับป๊อกกี้นั่นล่ะค่ะ) หรืออย่าง ‘White Day’ ที่เป็นวัฒนธรรมร่วมของเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน โดยตามธรรมเนียมนี้ วาเลนไทน์จะเป็นวันที่ผู้หญิงมอบของขวัญให้ผู้ชาย แล้ว 1 เดือนหลังจากนั้น ในวันที่ 14 มีนาคม ก็จะเป็นวัน ‘White Day’ ซึ่งผู้ชายต้องมอบของขวัญกลับค่ะ… โอกาสเหล่านี้ Flower-Korea ก็ได้จัดเตรียมของขวัญเหมาะ ๆ ไว้ให้ลูกค้าเลือกซื้อกันแบบไม่โป๊ะแตกแน่นอนค่ะ ^^
United Kingdom(Nationwide)
เป็นอีกร้านที่ทำลายข้อจำกัดของการสั่งดอกไม้ต่างประเทศ เพราะเขาออกแบบได้สวยมีสไตล์ ไม่จำเจเลยจริง ๆ ร้านนี้ชื่อว่า APPLEYARD (appleyardflowers.com) ซึ่งบริการจัดส่งทั่วประเทศอังกฤษเลยค่ะ เพียงเห็นเว็บไซต์หน้าตาสวยสะอาดตา และดูเฟมีนีนสุดๆ แบบนี้ ก็รู้เลยว่าต้องจัดดอกไม้ได้เก๋ไก๋แน่นอน รับประกันฝีมือด้วยผลงานที่ลงแมกกาซีนดังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Elle Decoration, Vogue, Bazaar, Vanity Fair
สินค้าของ APPLEYARD มีตั้งแต่ช่อดอกไม้ ดอกไม้ในกล่อง หรือจะสั่งดอกไม้คู่กับของขวัญอย่างอื่นก็ได้ เช่น แชมเปญ สบู่ เทียนหอม ช็อกโกแลต ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีแฮมเปอร์ หรือกระเช้าของขวัญสำหรับเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงของขวัญสั่งทำพิเศษอย่างสร้อยสลักชื่อก็มีให้เลือกสั่งตามชอบค่ะ
ทางร้านรับรองว่าสามารถจัดส่งสินค้าถึงที่หมายได้ในวันถัดไป หากสั่งดอกไม้ก่อน 3 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นค่ะ
New York City, USA
หลายคนเมื่อจะสั่งดอกไม้ต่างประเทศ ก็มักไปลงเอยกับร้านใหญ่ ๆ ที่มีสาขามากมาย ครอบคลุมไปทั่วทุกแห่งดุจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งบางทีก็แอบไม่แน่ใจว่าร้านแนวนี้จะใส่อกใส่ใจกับดอกไม้ของเรามากแค่ไหน แต่สำหรับในนิวยอร์กซิตี เรามีตัวเลือกเป็นร้าน PlantShed ร้านดอกไม้ที่มีชื่อเสียงทั้งฝีมือและความรักดอกไม้มาเป็นเวลากว่า 30 ปี ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจในครอบครัว ตั้งอยู่ในย่านอัปเปอร์อีสต์ไซด์ แมนแฮตตัน นิวยอร์กซิตี และปัจจุบันได้ขยายตัวเป็นร้านดอกไม้ออนไลน์ plantshed.com ซึ่งเราสามารถสั่งดอกไม้ให้ไปส่งได้ทั่วทั้งนิวยอร์กซิตี ไม่ว่าจะเป็นย่านแมนแฮตตัน บรุกลิน ควีนส์ บรองซ์ และเกาะสแตเทน ก็สามารถส่งถึงมือผู้รับได้ในวันที่สั่งเลยค่ะ… แม้ร้านจะใหญ่ขึ้น แต่ความใส่ใจแบบโฮมเมดก็ไม่ลดลง เพราะพื้นที่ให้บริการของร้านไม่กว้างจนเกินจะดูแลได้ทั่วถึงค่ะ
สินค้าของ PlantShed มีทั้งดอกไม้ ต้นไม้ ลูกโป่ง ที่มีตั้งแต่ราคาเบา ๆ เพียง 40 – 50 ดอลลาร์ มีบริการจัดส่งฟรีในแมนแฮตตันหากสั่งดอกไม้ออนไลน์มูลค่า 100 ดอลลาร์ขึ้นไป แถมยังมีบริการจัดดอกไม้นอกสถานที่ และรับออกแบบจัดสวนอีกด้วยค่ะ
USA (Nationwide)
ร้านสุดท้ายแต่ความดีงามไม่ท้ายสุดแน่นอน ใครจะคิดว่าถ้าเราสั่งดอกไม้ต่างประเทศ ข้ามน้ำข้ามทะเลขนาดนี้ จะมีร้านที่ทั้งใส่ใจในความสด ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผลงานที่พิถีพิถันดุจงานศิลปะ เป็นตัวเลือกให้เราสั่งได้ด้วย
ร้านดอกไม้ The Bouqs (thebouqs.com) เราสามารถสั่งดอกไม้ให้ส่งได้ทุกรัฐ ทุกเมืองทั่วสหรัฐอเมริกาเลยค่ะ ดอกไม้ของร้านนี้เป็นแบบ cut to order หรือดอกไม้ตัดสด ๆ จากสวนหลังจากที่ลูกค้าสั่งแล้วนั่นเอง จึงการันตีได้ว่าผู้รับจะได้รับดอกไม้สดที่เพิ่งตัดมาใหม่ ๆแน่นอน แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยคือส่วนใหญ่ส่งถึงมือผู้รับได้อย่างเร็วที่สุดในวันถัดไปนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากผู้รับอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสวนของทางร้าน (แถบแคลิฟอร์เนีย) เราสามารถสั่งดอกไม้บางแบบให้ส่งในวันนั้นได้เลยค่ะ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นร้านที่ค่อนข้างอินดี้ ขายสินค้าตามธรรมชาติของดอกไม้จริง ๆ ทำให้ลูกค้าอาจจะไม่ได้ดอกไม้แบบที่ต้องการ 100% หรือไม่เร็วทันใจนัก แต่มั่นใจในคุณภาพได้แน่ ๆ และยิ่งไปกว่านั้น The Bouqs ยังเลือกใช้ดอกไม้จากสวนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ มีร้านไหนถูกใจกันบ้างไหมเอ่ย ส่วนใครต้องการสั่งดอกไม้ในประเทศอื่น ๆ ที่เราไม่ได้นำมาฝากกันก็สามารถเสิร์ชหาร้านที่ถูกใจได้ไม่ยากค่ะ เพราะแทบทุกประเทศจะมีร้านดอกไม้ออนไลน์ชื่อดังคอยให้บริการอยู่แล้ว เพียงหาร้านที่น่าวางใจ มีระบบการบริการ การชำระเงินที่อำนวยความสะดวกได้ดี เท่านี้ไม่ว่าคนสำคัญของเราจะอยู่ห่างออกไปกี่ร้อยพันไมล์ ก็มั่นใจได้ว่าจะไม่พลาดโอกาสสำคัญแน่นอนค่ะ
ส่วนใครที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในไทยตอนนี้ แต่อยากส่งดอกไม้ถึงแฟน เพื่อน หรือครอบครัวในกรุงเทพฯ ก็สั่งดอกไม้ออนไลน์กับ LoveYouFlower™ ได้นะคะ ร้านเราเลิศจริง ไม่ได้อวยตัวเองแต่อย่างใดค่ะ >< ดังที่กล่าวไปข้างต้น เราทราบดีว่าความน่ากังวลอันดับแรก ๆ ของการสั่งซื้อของระยะไกลก็คือความน่าไว้วางใจของร้าน ซึ่งทางเราก็พยายามอย่างดีที่สุดที่จะสื่อสารกับลูกค้าทางไกลให้อุ่นใจ โดยเราสามารถถ่ายรูปส่งให้ลูกค้าทางไลน์หรืออีเมล ทั้งตอนที่สินค้าเพิ่งจัดทำเสร็จ เพื่อให้ลูกค้าตรวจเช็ก และเมื่อสินค้าส่งถึงมือผู้รับเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ
สำหรับการชำระเงิน ลูกค้าก็สามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้อย่างสะดวกค่ะ