การให้ของขวัญ เป็นธรรมเนียมที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามาช้านาน และมักจะเกิดขึ้นในโอกาสสำคัญต่างๆ แต่ทราบมั้ยคะว่าในแต่ละประเทศก็มีวัฒนธรรมในการมอบของขวัญที่แตกต่างกันไป และในแต่ละที่ก็มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวค่ะ
LoveYouFlower ขอนำเสนอเรื่องราวแห่งการส่งมอบความปรารถนาดีผ่านการให้ของขวัญของแต่ละประเทศให้ได้อ่านกันค่ะ ใครสนใจจะนำของขวัญไปให้เพื่อนๆชาวต่างชาติก็ลองอ่านกันดู จะได้เลือกของขวัญที่สร้างความประทับใจให้พวกเขาได้ยังไงล่ะคะ
เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละประเทศมีธรรมเนียมการให้ของขวัญยังไงกันบ้าง
ประเทศจีน
ประเทศที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ยาวนานและหลากหลายอย่างประเทศจีนก็มีธรรมเนียมการให้ของขวัญที่น่าสนใจเหมือนกันนะคะ การมอบของขวัญของคนประเทศนี้จะขึ้นอยู่กับโอกาสและสถานการณ์ อย่างเวลาเราไปเยี่ยมบ้านใคร เราก็ควรมีของขวัญอย่างช่ออดอกไม้ กระเช้าผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นติดไม้ติดมือไปให้ภรรยาของเจ้าบ้านด้วย เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่สร้างความประทับใจได้ดีมากเลยทีเดียวค่ะ
ส่วนเรื่องจำนวนชิ้นของของขวัญนั้น ชาวจีนยังถือเคล็ดว่าของดีมีเป็นคู่ ดังนั้นไม่ว่าจะให้ของขวัญในโอกาสใดก็ตาม สิ่งของนั้นๆควรเป็นจำนวนคู่ แต่สำหรับชาวจีนกวางตุ้ง มีข้อยกเว้นอยู่อย่างหนึ่ง คือ นำจำนวนคู่ที่กล่าวมาจะเป็นจำนวนไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ 4 เพราะเลข 4 ในภาษาจีนกวางตุ้ง มีเสียงพ้องกับคำที่มีความหมายว่า “ตาย” เพราะฉะนั้น ถ้าจะนำของขวัญไปให้คนรู้จักที่เป็นชาวจีนกวางตุ้งก็ระวังจำเรื่องจำนวนดีๆนะคะ
นอกจากเรื่องจำนวนแล้ว ชาวจีนยังถือเคล็ดเรื่องสีอีกด้วย ทุกครั้งที่มีเทศกาล หรือวันสำคัญต่างๆ แต่ละสถานที่จะถูกประดับตกแต่งไปด้วยสีแดง เพราะชาวจีนมีความเชื่อว่าสีแดงเป็นสีแห่งโชคลาภ ถ้าจะเลือกกล่องหรือกระดาษเพื่อนำมาห่อของขวัญ แนะนำว่าควรใช้สีแดง แต่ถ้าอยากให้มีความหลากหลาย สามารถนำสีเงิน ทอง หรือชมพูมาใช้ร่วมกันได้ค่ะ ส่วนสีที่ควรหลีกเลี่ยงคือสีโทนมืดอย่างสีน้ำเงิน และสีดำ และอีกสีหนึ่งที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง นั่นก็คือสีขาว หลายคนอาจจะคิดว่าสีขาวเป็นสีแห่งความสะอาด บริสุทธิ์ แต่สำหรับชาวจีนแล้ว สีขาวหมายถึงความโศกเศร้า หม่นหมอง รวมไปถึงความยากจนข้นแค้นอีกด้วยค่ะ ใครที่จะซื้อของขวัญให้ชาวต่างชาติอย่างชาวจีนก็ต้องพิถีพิถันกันหน่อยนะคะ
ประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในด้านการผสมผสานกันของวัฒนธรรมยุคเก่าและยุคใหม่
ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำหน้าหลายๆประเทศ
แต่ชาวญี่ปุ่นก็ยังยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
อีกทั้งยังมีธรรมเนียมที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อขานรับวัฒนธรรมที่เข้ามาของชาติตะวันตกอีกด้วยค่ะ
อย่างในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก สาวญี่ปุ่นจะมอบช็อคโกแลตสองชนิดด้วยกัน ได้แก่ ฮอนเมอิ ช็อคโก (honmei
choco) หรือช็อคโกแล็ตที่ใช้สำหรับแสดงความรัก มีรูปแบบสวยงาม มีลวดลายหลากหลาย
อาจจะเป็นช็อคโกแล็ตคุณภาพชั้นเยี่ยมที่มีราคาค่อนข้างสูง หรือจะเป็นช็อคโกแลตที่สาวๆลงทุนลงแรงทำขึ้นมาเอง
จากนั้นก็จะบรรจุใส่กล่องรูปหัวใจ หรือรูปทรงอื่นๆ ส่วนช็อคโกแลตอีกชนิดหนึ่งมีชื่อเรียกว่า กิหริ ช็อคโก (giri
choco) ซึ่งจะถูกนำไปมอบให้กับเพื่อนฝูง เจ้านาย หรือเพื่อนผู้ชายที่สนิทกัน หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือน
หนุ่มๆจะตอบแทนสาวๆด้วยการมอบช็อคโกแลตให้กับพวกเธอ วันนี้มีชื่อเรียกว่า White Day ตรงกับวันที่ 14 มีนาคม
ซึ่งห่างจากวันวาเลนไทน์ 1 เดือนพอดีเป๊ะ และช็อคโกแลตที่หนุ่มๆจะนำไปมอบให้สาวๆก็เป็น white chocolate
ซึ่งตรงตามกับชื่อของวันนั่นเองค่ะ
ถ้าหากสาวๆคนไหนคิดจะมอบช็อคโกแล็ตเป็นของขวัญให้กับชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นก็ต้องลงทุนกันหน่อยนะคะ
แต่ถ้ารู้สึกว่ามันยุ่งยากก็ลองมองหาช็อคโกแล็ตเกรดพรีเมียมรสชาติเยี่ยม ไปให้
ก็น่าจะสร้างความประทับใจได้ไม่แพ้กัน
ส่วนการมอบของขวัญให้ผู้ป่วย ชาวญี่ปุ่นจะนิยมมอบดอกไม้ ซึ่งถือเป็นวิธียอดนิยมในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ แต่การเลือกดอกไม้ก็มีข้อควรระวังอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะมีบางอย่างที่ชาวญี่ปุ่นมองว่าไม่เหมาะกับการนำไปมอบให้ผู้ป่วย เช่น ดอกไม้ที่มีสีจัดหรือกลิ่นแรงเกินไปอย่างดอกมัม หรือจะเป็นช่อดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่เกินไป เรื่องจำนวนก็สำคัญเหมือนกันนะคะ ดอกไม้ที่จะนำไปเยี่ยมผู้ป่วยไม่ควรมีจำนวน 4, 9, และ 13 ดอก เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นเลขแห่งความโชคร้าย จะนำสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิตได้ค่ะ
ประเทศเกาหลีใต้
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าสิบปีที่ผ่านมานี้ เทรนด์ K-Pop หรือกระแส pop culture จากประเทศเกาหลี เข้ามามีอิทธิพลกับประเทศไทยในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ เพลง หรือหนัง และก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าดาราตี๋หมวยเหล่านั้นทำเอาสาวๆหนุ่มๆชาวไทยฟินกันไปถ้วนหน้า ชนิดที่ว่าอยากจะบินไปหาแฟนถึงเกาหลีกันเลยทีเดียว เราอาจจะรู้จักกับประเพณีและวัฒนธรรมเกาหลีผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม อาหารการกิน และอื่นๆอีกมากมาย แต่เพื่อนๆทราบเรื่องธรรมเนียมการให้ของขวัญของชาวเกาหลีกันมั้ยคะ? ถ้ายัง เรามาดูกันเลยดีกว่า
เวลาไปเยี่ยมญาติ ชาวเกาหลีก็มักจะนำของติดไม้ติดมือไปฝาก อาจจะเป็นงานฝีมือที่หาได้ในท้องถื่น ผลไม้ ขนมเค้ก ช็อคโกแล็ต ดอกไม้ หรือกาแฟนำเข้า และหลังจากที่ได้รับของไปแล้ว ผู้รับก็จะต้องเปลี่ยนแปลงบทบาทเป็นผู้ให้ในภายหลัง ดังนั้นผู้ให้จึงต้องดูด้วยว่าของขวัญที่ให้นั้นสมฐานะของผู้รับหรือเปล่า เพราะถ้าหากของขวัญชิ้นนั้นมีราคาสูงจนผู้รับไม่สามารถซื้อของราคาใกล้เคียงมาตอบแทนได้ จะเกิดการเสียหน้าขึ้นได้ค่ะ
ประเทศฝรั่งเศส
มาที่ฝั่งของเมืองน้ำหอมสุดโรแมนติกอย่างฝรั่งเศสกันบ้างนะคะ
เมื่อพูดถึงประเทศนี้ นอกจากน้ำหอมแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงไวน์ชั้นเลิศ และบรรยากาศที่สวยคลาสสิคเหมือนในหนังยุค
50’s-60’s ใช่ค่ะ วัฒนธรรมของประเทศนี้ดูดีมีระดับแทบจะทุกอย่าง
ของขวัญยอดนิยมเมื่อไปเยี่ยมบ้านชาวฝรั่งเศสก็ได้แก่ดอกไม้สวยๆ ช็อคโกแล็ตเกรดพรีเมียม ชีส ไวน์
หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับการแต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติ (liqueur) ค่ะ
หลังจากไปเยี่ยมบ้านแและร่วมรับประทานอาหารเย็นกับเจ้าบ้านแล้ว คนที่เป็นแขกควรนำช่อดอกไม้ หรือตะกร้าผลไม้
พร้อมแนบโน้ตที่เขียนคำขอบคุณไปให้กับเจ้าบ้านในวันถัดไปค่ะ การเลือกของขวัญทั่วไป คนฝรั่งเศสไม่เกี่ยงเรื่องราคา
ขอแค่ถูกใจผู้รับก็เพียงพอแล้ว
ถึงแม้ว่าการให้ของขวัญของชาวฝรั่งเศสไม่ได้ดูยุ่งยากหรือซับซ้อน แต่ก็มีข้อควรระวังเล็กๆน้อยๆอยู่บ้างเหมือนกันนะคะ อย่าเช่นการมอบดอกไม้ ดอกไม้ที่นำไปมอบไม่ควรเป็นดอกมัมหรือดอกลิลลี่ เพราะดอกไม้สองชนิดนี้จะถูกนำไปใช้ในงานศพเท่านั้น ดอกคาร์เนชันสีแดงแสดงถึงความมุ่งร้าย ไม่หวังดีของผู้ให้ค่ะ อาจจะเลือกเป็นดอกกุหลาบ ดอกไฮเดรนเยีย หรือดอกไม้สวยๆชนิดอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาก็ได้เหมือนกันนะคะ
ประเทศอังกฤษ
ชาวอังกฤษส่วนใหญ่รักการสังสรรค์เป็นชีวิตจิตใจ
ทุกครั้งที่มีการเฉลิมฉลอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นปัจจับสำคัญที่ขาดไม่ได้ อย่างการสังสรรค์วันเกิดนอกสถานที่
คนอังกฤษมักจะไปดื่มตามบาร์ท้องถิ่น เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเป็นถูกเชิญไปร่วมงาน
คุณแค่จัดเครื่องดื่มให้เจ้าของวันเกิดซักชุด เขาก็เป็นปลื้มแล้วล่ะค่ะ หรือถ้าคุณได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมบ้าน
ของขวัญที่ควรนำติดไม้ติดมือไปอาจจะเป็นช็อคโกแล็ตซักกล่อง ไวน์ซักขวดนึง
หรือจะเป็นดอกไม้ก็ได้นะคะ
การมอบแชมเปญสำหรับการเฉลิมฉลองก็เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความประทับใจให้กับผู้รับได้เช่นกันนะคะ
แต่เครื่องดื่มแอลกอฮล์ชนิดอื่นๆนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้รับ จึงไม่แนะนำให้เลือกซื้อไปเป็นของขวัญค่ะ
อย่างไรก็ตาม ธรรมเนียมการให้ของขวัญของประเทศต่างๆที่ LoveYouFlower ได้นำมาเสนอ เป็นเพียงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเท่านั้น เรื่องของธรรมเนียมและความเชื่ออาจเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ผู้รับบางคนอาจจะไม่ได้ซีเรียสเกี่ยวกับลักษณะของของขวัญที่ได้รับซักเท่าไหร่ แค่เป็นสิ่งของที่ดูเหมาะกับการนำไปมอบเป็นของขวัญก็น่าจะเพียงพอแล้วนะคะ แต่ที่มาและเรื่องราวของธรรมเนียมเหล่านี้ก็มีความน่าสนใจ เพราะทำให้เราได้ทราบถึงความแตกต่างของธรรมเนียมประเพณีในแต่ละประเทศ รวมไปถึงความเชื่อในสังคมของประเทศนั้นๆด้วยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.giftypedia.com/International_Gift_Customs
https://www.tcbl-thai.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=538819966
https://dichan.mthai.com/story/3326.html