การดูแลดอกไม้ไม่ใช่เรื่องยาก หากเรารู้จักวิธีที่ถูกต้องในการรักษาความสด และคงสภาพดอกไม้ ซึ่งดอกไม้แต่ละชนิดต้องการการดูแลที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการตัดแต่งก้าน เปลี่ยนน้ำ หรือเก็บในที่ที่เหมาะสม หากคุณเป็นคนที่รักดอกไม้ การเรียนรู้วิธีการดูแลรักษาดอกไม้ให้สดใสและคงทนยาวนานจะช่วยให้ดอกไม้ของคุณดูสวยงามและสดชื่นอยู่เสมอ วันนี้ร้านดอกไม้ Love You Flower ได้เตรียมคำแนะนำสำหรับดอกไม้แต่ละประเภทมาให้แล้ว ไปดูกันเลย
1. ดอกไม้ที่มีก้านแข็งแรง
เช่น ซ่อนกลิ่น ดาหลา ฯลฯ ดอกไม้ที่มีกิ่ง, ก้านใหญ่เหล่านี้ นอกจากจะเป็นดอกไม้ที่มีก้านลักษณะแข็ง เป็นปัญหามากทำให้ดูดน้ำได้ยากหลังจากตัดก้านดอกไม้แล้วจะต้องทุบปาลายก้าน ให้แตกเล็กน้อย ให้รอยทุบนั้นยาวประมาณ 1 นิ้ว ล้างบริเวณที่ทุบให้สะอาด หลังจากนั้นให้เอาน้ำเทราดหรือพรมทั้งช่อ นำไปแช่น้ำสะอาดในถังน้ำที่มีปริมาณน้ำไม่มากนัก เพราะถ้าน้ำมากจะทำให้ก้านเน่าเร็ว แต่การตัดก้านและเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ จะทำให้ดอกไม้ดูสดชื่น การปฏิบัติลักษณะนี้ก็เพื่อป้องกันดอกไม้สูญเสียอาหารที่จะออกมากับ "น้ำในกิ่งไม้"
2. ดอกกุหลาบ
เป็นดอกไม้ที่บอบบาง และเหี่ยวเฉาง่าย และเป็นดอกไม้ที่ต้องการน้ำมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่นๆ หากจะนำไปจัดแจกันจะต้องปลิดใบและหนามบริเวณช่วงล่างของก้านออก ให้เหลือใบไว้ประมาณ 3/4 ของก้าน และนำไปตัดก้านใต้น้ำ ไม่ควรตัดก้านทิ้งไว้นานก่อนแช่น้ำ เพราะอากาศจะทำให้ท่อดูดน้ำแห้งเร็วค่ะ และจะทำให้ดอกกุหลาบของเราไม่สดชื่นได้
3. ดอกไม้ประเภทมีหัวใต้ดิน
เช่น ดอกว่านสี่ทิศ ดอกว่านเศรษฐี ดอกทิวลิป ดอกไม้ต้องตัดตรงส่วนก้าน เพราะไม่เช่นนั้นดอกไม้จะดูดน้ำไม่ได้ มียางใสๆ ที่จะต้องปล่อยให้ไหลออกให้หมดเพราะจะปิดทางเดินของน้ำที่จะดูดซึมไปเลี้ยงดอกไม้ เมื่อแช่ดอกไม้ประเภทนี้ไว้ในน้ำ ก้านดอกไม้มักจะโค้งซึ่งจะทำให้นำมาจัดช่อดอกไม้ยาก แต่ก็สามารถที่จะป้องกัน ไม่ให้ก้านโค้งงอได้ โดยใช้เชือกพันปลายก้านหลังจากที่ตัดดอก และการพันก้านจะต้องพันเบาๆ อย่าพันแน่น
4. ดอกไฮเดรนเยีย
ดอกไม้ชนิดนี้จะเหี่ยวเร็วมากเมื่อถูกตัดออกจากต้น และต้องการการดูแลเป็นพิเศษเมื่อนำมาปักแจกัน ให้จุ่มปลายก้านดอกในน้ำร้อนเพื่อเป็นการรักษาดอกให้บานคงทน แล้วใช้ก้านที่จุ่มในน้ำร้อนแล้วปักลงในผงสารส้มหนาประมาณ 1 นิ้ว แล้วเคาะส่วนเกินที่ติดก้านออก ก่อนจะปักลงในน้ำเย็น หรืออาจจะห่อปลายก้านด้วยผ้าชุบน้ำเย็น และหมั่นคอยดูแลให้ผ้าชุ่มน้ำอยู่เสมอซึ่งจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง วิธีนี้จะช่วยให้ดอกไฮเดรนเยียสดชื่นและเหี่ยวช้าลงได้
5. ดอกคาร์เนชั่น
เพื่อให้อายุของดอกไม้คงทนอยู่ในแจกันได้นานที่สุด ควรทำตามคำแนะนำ ดังนี้
- ดอกไม้ต้องการความชุ่มชื้นและน้ำเป็นพิเศษเมื่อมันถูกปักลงบนโฟม แต่โฟมอุ้มน้ำได้น้อยกว่าแจกัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลให้โฟมมีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นควรดูแลอย่าให้น้ำแห้ง และหมั่นเติมน้ำลงบนโฟม วันเว้นวัน
- เวลาตัดก้าน ให้ตัดบริเวณเหนือข้อต่อขึ้นไปเสมอ เพื่อให้ก้านสามารถดูดน้ำได้ง่ายยิ่งขึ้น
6. ดอกกล้วยไม้ (Orchid)
ดอกกล้วยไม้ ต้องการดูแลเป็นพิเศษ ดอกกล้วยไม้สามารถอยู่ในแจกันได้นานตราบเท่าที่มันจุ่มอยู่ในน้ำ เวลาที่คุณซื้อดอกกล้วยไม้ ก้านของมันอาจจะใส่ไว้ในหลอดน้ำหรือไม่ก็พันด้วยสำลีชุบน้ำ ให้ดึงมันออกแล้วตัดก้านขึ้นอีกนิดก่อนที่จะวางลงในน้ำสะอาด ดอกกล้วยไม้ควรหลีกเลี่ยงจากความร้อน ลมโกรก หรือ พัดลม แอร์ หรืออะไรก็ตาม ที่ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้น หมั่นพรมน้ำหากดอกดูเหี่ยวลง ให้แช่ทั้งดอกลงในน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่ควรวางดอกกล้วยไม้ไว้ใกล้ผักผลไม้ หรือดอกไม้เหี่ยวอื่นๆ เพราะดอกกล้วยไม้ไวต่อก๊าซเอทิลีนมาก
7. ดอกเยอบีร่า
เป็นดอกไม้ประเภทก้านอ่อน จะสามารถดูดน้ำได้ปริมาณมาก เมื่อตัดก้านแช่น้ำก็จะดูดน้ำมากจนเกินไป ทำให้ก้านแตกและเน่าได้ง่ายฉะนั้นเมื่อซื้อดอกเยอบีร่ามา จะสังเกตได้ว่าส่วนใหญ่ทางฟาร์มดอกไม้จะใช้วิธีถอนมาขาย ไม่ได้ใช้วิธีตัดมาขาย เมื่อมาใหม่ประมาณ 3-4 วันแรกไม่ควรตัดก้าน เมื่อตัดก้านจะทำให้ช้ำ เน่าเสียเร็ว และไม่ควรฉีดน้ำบริเวณเกสรดอกจะทำให้เกิดเชื้อรา
8. ดอกไม้ตระกูลคริสซานดิมัม
ดอกไม้ประเภท มัม เบญจมาศ ปิงปอง สไปเดอร์ ดอกไม้ชนิดนี้มีใบเหี่ยวเร็วมาก หากต้องการให้ดอกไม้อยู่ทน จะต้องปลิดใบออกให้หมดทั้งช่อ หลังจากนั้นให้ตัดก้านออก จะช่วยให้ดอกไม้อยู้ได้นานขึ้นค่ะ
การดูแลดอกไม้ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป หากเราใส่ใจในรายละเอียดและให้ความสำคัญกับความต้องการของดอกไม้แต่ละชนิด เพียงแค่ปรับวิธีการดูแลเล็กน้อย คุณก็สามารถยืดอายุความสวยงามและความสดชื่นของดอกไม้ให้คงอยู่ได้นานขึ้น ร้านดอกไม้ Love You Flower หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่าน และขอฝาก ช่อดอกไม้ กระเช้าดอกไม้ คุณภาพดี ส่งด่วน ส่งเร็ว ของเราไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ